มีผู้สูงวัยหลายคนเลือกทำรากเทียม เพราะด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น ปัญหาสุขภาพจึงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยมีสาเหตุจากระบบภาพในร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่องปากและฟัน ถือว่าพบได้บ่อยที่สุด ทั้งฟันผุ ฟันสึก และโรคที่เกี่ยวกับเหงือก ทั้งหมดที่ว่านี้เสี่ยงทำให้สูญเสียฟันได้

วิธีเลี่ยงปัญหาที่ดีต่อผู้สูงวัยที่สุด จึงไม่พ้นการทำรากเทียม เพราะเมื่อใดก็ตามที่สูญเสียฟันไปการบดเคี้ยวอาหารจะทำได้ไม่ละเอียด ส่งผลกระทบต่อกระเพราะย่อยอาหารโดยตรง การให้ทันตแพทย์ทำรากฟันเทียม จึงช่วยให้ผู้สูงวัยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกครั้ง

[size=150%]ผู้สูงวัยต้องใช้รากเทียมแบบไหน[/size]

ทันแพทย์ที่ทำรากฟันเทียมให้ผู้สูงวัยต้องดำเนินการตรวจเช็คสุขภาพโดยรวมของคนไข้ก่อน ว่าเหมาะกับรากฟันเทียมชนิดไหน ซึ่งรากฟันเทียมที่ใช้กับผู้สูงวัยที่ทันตแพทย์ใช้กัน แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ซึ่งแต่ละคนก็มีความเหมาะสมกับรากฟันเทียมต่างกัน

1.รากฟันเทียมทั่วไป https://www.edelweissdentalhouse.com/th/implants/ มีขั้นตอนคือหลังจากทันตแพทย์ฝังรากฟันเทียมลงไป ต้องรอให้กระดูกยึดติดกับรากฟันเทียมอย่างสมบูรณ์ก่อน 3-4 เดือน จึงทำฟันปลอมให้ยึดติดกับรากฟันเทียมได้ ซึ่งชนิดนี้จัดว่ามีข้อจำกัดค่อนข้างน้อย แต่ในกรณีที่คนไข้มีกระดูกขากรรไกรบางเกินไป ก็ต้องเพิ่มความหนาโดยใช้เทคนิคปลูกกระดูกก่อน

2.ฝังรากเทียมทันที หลังจากถอนฟันแท้ออก สามารถใส่ครอบฟัน หรือทำสะพานฟันได้ทันทีหลังจากทันตแพทย์ฝังรากฟันเทียมเสร็จแล้ว ซึ่งชนิดนี้เหมาะกับคนที่มีขากระดูกกรรไกรแข็งแรงและสมบูรณ์

3.ชนิดสุดท้ายคือ การเชื่อมต่อส่วนของฟันปลอม เช่น การครอบฟันแบบชั่วคราว หรือถาวรไปไว้ที่รากฟันในทันที หลังจากทันตแพทย์ดำเนินการฝังรากฟันเทียมเสร็จแล้ว จัดเป็นอีกหนึ่งชนิดที่เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่มีขากระดูกกรรไกรแข็งแรงสมบูรณ์

ทั้งนี้ รากเทียมสามารถติดได้หลายซี่ตามความเหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อฟันซี่ที่อยู่ข้างเคียง ทำให้ฟันมีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบดเคี้ยวอหารได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ต่างจากฟันธรรมชาติ ช่วยสร้างความมั่นใจ รวมทั้งทำให้สุขอนามัยช่องปากโดยรวมดีขึ้น.